ความหมายของเชื้อไวรัสโรตา
ไวรัสโรตา
เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการอุจจาระร่วงอย่างรุนแรง
ส่วนใหญ่บุคคลที่เป็นโรคอุจจาระร่วงโดยเชื้อไวรัสโรตานี้มักจะมีอายุต่ำกว่า
2 ปี ซึ่งเชื้อนี้จะปนอยู่ในอุจจาระของเด็ก
ดังนั้นถ้าไม่มีการกำจัดอุจจาระอย่างถูกสุขลักษณะจะทำให้เชื้อสามารถแพร่กระจายไปสู่เด็กอื่นได้
แต่อย่างไรก็ตามอุจจาระก็เป็นเพียงสาเหตุหนึ่งเท่านั้นที่ทำให้เชื้อแพร่กระจาย แต่ที่ร้ายกว่านั้นคือ ไม่มีใครรู้แน่ว่า เชื้อโรตาไวรัสนี้ติดต่อกันด้วยวิธีไหน อาจจะติดต่อโดยการสัมผัส การกลื่นเชื้อลงสู่กระเพาะอาหาร ลำไส้
หรือว่าจะเป็นการหายใจเข้าไป
และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือเราไม่สามารถรู้ได้ว่าเชื้อโรคนี้จะอยู่บริเวณไหนบ้าง ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่าเด็กๆ ส่วนใหญ่มักจะเป็นโรคนี้กันมากโดยไม่มีการเลือกว่าคุณจะเป็นใครมาจากที่ใหน
หรือต่อให้คุณดูแลสุขลักษณะสุขอนามัยดีมากแค่ไหนคุณก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงมันได้ การป้องกันเชื้อโรคนี้ทำได้ยากมาก
แต่ถึงแม้ว่าการป้องกันเชื้อโรคนี้เป็นไปได้ยากเราก็ยังต้องให้ความสำคัญกับเรื่องความสะอาด ล้างของเล่นเด็กอย่างสม่ำเสมอ และในการเรียมอาหารควรปรุงให้สะอาด สุก
โดยผ่านความร้อน
เชื้อไวรัสที่เป็นสาเหตุสำคัญของดรคอุจจาระร่วงคือ rotaviruses norwalk group , และ adenoviruses และกลุ่มไวรัสที่ตรวจพบในอุจจาระในผู้ป่วยและมีรายงานว่าอาจเป็นสาเหตุในการก่อโรคอุจจาระร่วงได้
คือ astroviruses ,
caliciviruses , small round viruses ,
coronaviruses , pestiviruses , picobirnaviruses
, toroviruses , minireoviruses เชื้อไวรัสเหล่านี้มีรูปร่างและขนาดแตกต่างกัน
ดังรูป
ลักษณะและโครงสร้าง
เชื้อไวรัสโรตา มีรูปร่างกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 70 – 75 นาโนเมตร ซึ่งมีแกนกลางขนาด 37 นาโนเมตร คือมีรูปร่างเป็นวงล้อ
สมบัติทางกายภาพและเคมีของเชื้อไวรัสโรตา
ไวรัสโรตาจะไม่มี envelope หุ้มจึงไม่ถูกทำลายด้วยสารละลายไขมัน เชื้อจะมีความทนทาน
น้ำยาฆ่าเชื้อที่ทำลายไวรัสโรตาได้ผลดีที่สุดคือ แอลกอฮอล์ 95%
ความหมายของอุจจาระร่วง
โรคท้องร่วงหมายถึงการถ่ายอุจจาระเหลวตั้งแต่
3 ครั้งภายใน 1 วัน
หรือถ่ายเป็นน้ำจำนวนมากหรือมูกเลือดแค่ครั้งเดียวใน 1 วัน
ก็ถือว่าเป็นโรคท้องร่วงแล้ว ซึ่งหากไม่รีบรักษาแต่เนิ่นๆ
ก็จะเกิดภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ อาการอาจรุนแรงทำให้ช๊อกถึงตายได้
การระบาดของโรค
เชื้อไวรัสโรตา เป็นสาเหตุที่สำคัญของโรคอุจจาระร่วงในเด็กอายุ
6 – 24 เดือน
ซึ่งพบได้ทั่วทุกภูมิภาคของโลก
การศึกษาในประเทศไทยพบเด็กป่วยเป็นอุจจาระร่วงโรคด้วยสาเหตุจาก
ไวรัสโรตา ถึงร้อยละ 20 – 50 เด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไปประมาณร้อยละ 80 – 90 จะเคยติดเชื้อไวรัสมาแล้ว
และจะตรวจพบแอนติบอดีต่อไวรัสโรตาไปจนตลอดชีวิต
แสดงว่ามีการติดเชื้อซ้ำอยู่เสมอโดยไม่แสดงอาการ
ปัจจัยของเชื้อไวรัสโรตาที่ทำให้เกิดท้องร่วง
สาเหตุ
ลักษณะและโครงสร้าง
เชื้อไวรัสโรตา มีรูปร่างกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กาลางประมาณ 70 – 75 นาโนเมตร แกนกลางมีขนาด 37 นาโนเมตร ป็นไวรัสในวงค์ Reoviridae การที่มีชื่อว่า ไวรัสโรตา
เพราะมีรูปร่างเมือนวงล้อ
โครงสร้างของไวรัสโรตาประกอบด้วยโปรตีนแคปซิด 2 ชั้น เรียงตัวแบบ
icosahedral แคปซิดชั้นนอกเป็นขอบ มองเห็นเป็นวงชัด โดยมีแคปโซเมอร์ (capsomers) ยื่นออกมารอบ ๆ
เป็นรัศมีทำให้มองเห็นเป็นซี่ล้อ
ส่วนแคปซิดชั้นในมองเห็นเหมือนดุมล้อ
แคปโซเมอร์ทั้งหมดมีประมาณ 32 – 320 หน่วย
ภายในอนุภาคไวรัสโรตามีลีโนม (genome) ประกอบด้วยกรดไรโบนิวคลีอิด
หรืออาร์เอนเอ 11ชิ้น มีน้ำหนักโมเลกุล 0.2 – 2.2 x 106 ดาลตัน อาร์เอ็นเอชิ้นที่ 1,2 และ 3
ควบคุมการสร้างโปรตีน
แคปซิดที่แกนกลางของอนุภาคเรียกว่า VP1, VP2,VP3 ตามลำดับ
อาร์เอ็นเอชิ้นที่ 6ควบคุมการสร้างโปรตีนแคปซิดชั้นใน VP6 เป็นแอนติเจนที่มีความจำเพาะกับไวรัสโรตา หมู่
เออาร์เอ็นเอชิ้นที่ 4 และ 7,8 หรือ 9
ควบคุมการสร้างโปรตีนแคปซิดขั้นนอก
มีชื่อเรียกว่า VP4 และ VP7
เป็นแอนติเจนที่จำเพาะต่อซีโรไทป์
และอาร์เอ็นเอที่ 5,7,8,10 และ 11ควบคุมการสร้าง nonstructural
proteins.
รูปที่ 2 แสดงโครงสร้างของ
Rotavirus
ที่มา www.bcm.tmc.edu/gradschool/ phd-programs.html
ที่มา www.bcm.tmc.edu/gradschool/ phd-programs.html
การจำแนกเชื้อไวรัสโรตา
โรตาไวรัสที่พบในคนและสัตว์จัดแบ่งได้เป้น
7 group
คือ A,B,C,D,E,F และ G
โดยอาศัยความแดตกต่างใน RNA
electropherotypes,genome hybridization และความแตกต่างกันของแอนติเจนในโปรตีน
VP6 ซึ่งทดสอบโดยปฏิกริยา ELISA หรือ immuneeletron
microscope(IEM) โรตาไวรัสที่ก่อโรคในคนและเป็นตัวการสำคัญของโรคอุจจาระร่วงที่ระบาดทั่วโลกเป็นไวรัสจาก
group A แทบทั้งสิ้นส่วนที่เกิดจากไวรัส groupBและgroupCเป็นส่วนที่เกิดขึ้นน้อยมากและก็ไม่ไ ด้ระบาดทั่วโลกเหมือน
group A
โรตาไวรัสในgroup
Aทั้งหมดพบในคนและสัตว์ซึ่งแบ่งออกเป็นซีโรไทป์โดยอาศัยความแตกต่างกันของแอนติเจนใน
VP7 และVP4โดยกรทดสอบด้วยวิธีneutralization
ถ้าจัดตาม VP7อาจจะเรียกว่าเป็นการจัดตามGserotype
เนื่องจากVP7เป็นไกลโคโปรตีน(G)แต่ถ้าแบ่งตามVP4จะแดยกไวรัสgroup A ออกได้เป็น11 ซีโรไทป์เรียกว่าเป็นการจัดตาม P
serotypeเนื่องจาก VP4
เป็นโปดรตีนที่ไวต่อการถูกทำลายด้วยเอนไซม์protese(P)
อาการของโรค
ไวรัสโรตาก่อโรคอุจจาระร่วงในทารกและทารกและเด็กเล็กรวมทั้งลูกสัตว์หลายชนิด
เช่น ลูกหมูลูกแกะ ลูกหนูลูกวัว ลูกไก่ ลูกสุนัข ฯลฯ
ถ้าเด็กโตหรือผู้ใหญ่มีการติดเชื้อนี้นี้อาจจะไม่แสดงอาการ หรือมีอาการน้อยกว่าที่พบในเด็กเล็ก
หลังระยะพักตัว 1-3
วันคนไข้จะอาเจียน ปวดท้อง ถ่ายอุจจาระเหลวหรืถ่ายเป็นน้ำ มีไข้ต่ำประมาณ 38
องศาเซลเซียสถึง39องศาเซลเซียสอาจเกิดร่วมกับระบบทางเดินหายใจส่วนบนมีน้ำมูกใหล ไอ
คอแดง ต่อมทอลวิลอักเสบ อาการพบนานตั้งแต่2-3วันจนถึง7-10วัน
บางรายอาจมีอาการรุนแรง มีการขาดน้ำ ช็อก ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตบางรายเกิดเยื่อหุ้มนสมองอักเเสบ
, สมองอักเสบ
และมีกาติดเชื้อในกระแสโลหิตปกติโรคนี้หายเองได้ระยะเวลาของโรคประมาณ2-14วัน
ระยะเฉลี่ย 4 วัน
การติดเชื้อไวรัสโรตาอาจไม่รุนแรงหรือไม่แสดงอาการในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า
6เดือน แต่จะอันตรายและรุนแรงในเด็กที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องและรุนแอรงในผู้ใหญ่ที่มีภาวะกดภูมิคุ้มกันบกพร่องและรุนแรงในผู้ใหญ่ที่มีภาวะกดภูมิคุ้มกัน
เช่นภาวะปลูกไขกระดูก
ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตจากการขาดน้ำความไม่สมดุลของอิเล็กโตรไลต์
และหัวใจหยุดการทำงาน
การติดต่อ
โรคอุจจาระร่วงที่มีสาเหตุจากไวรัสโรตาติดต่อกันได้โดยการกินอาหารที่ปนเปื้อน
ไวรัสชนิดนี้มีความทนทานสูงต่อภาวะแวดล้อมนออกร่างกาย ค่อนข้างทนต่อการทำลายด้วยยาฆ่าเชื้อ
เชื้อที่อยู่ในอุจจาระที่อุณหภูมิห้อองอยู่ได้นานหลายเดือน
ทนอยู่ได้นานเป็นหลายสัปดาห์ในประปาหรือน้ำเสีย
ในอาหารที่ผ่านความร้อนไม่เต็มที่เชื้อแพร่กระจายได้ทางเครื่องใช้ผู้ป่วย
และโดยการติดไปกับมือหรือร่างกายของผู้ที่สัมผัสอุจจาระของผู้ป่วย
การรักษา
การรักษาเบื้องต้นเป็นการทดแทนน้ำและเกลือแร่โดย
1.ให้น้ำเกลือแร่รับประทาน
ถ้าเป็นผงควรผสมน้ำตามสัดส่วนที่กำหนดไว้
ไม่ควรผสมเข้มข้นหรือเจือจางเกินไป
2.น้ำข้าวผสมน้ำเกลือในน้ำข้าวจะมีกรดอะมิโนช่วยในการดูดซึมน้ำและเกลือแร่โดยทั่วไปการให้น้ำเกลือเป็นการรักษาเบื้องต้นไม่ควรให้นานเกิน
24 ชั่วโมง
ถ้าเด็กยังคงมีอาการควรพบแพทย์สำหรับน้ำชาไม่ควรใช้ในการรักษาอุจจาระร่วงในเด็ก
3.อาการที่บ่งชี้วาควรพาเด็กไปพบแพทย์
- มีอาการขาดน้ำอย่างน้ำอย่างรุนแรง ได้แก่
กระหม่อมยุบ ตาโหล ปากแห้ง เป็นต้น
-
อาเจียนมากให้น้ำเกลือแร่รับประทานไม่ได้
-
รักษาโดยการให้น้ำเกลือแล้วรับประทานนานเกิน 24 ชั่วโมงแล้วยังไม่ดีขึ้น
-
มีอาการไข้หรือถ่ายเป็นมูกปนเลือด
4.ถ้าเด็กอาเจียนมากควรงดนม และให้น้ำตาลเกลือแร่แทน
เพราะโรคอุจจาระร่วงทำให้ลำไส้และกระเพาะย่อยอาหารที่มีไขมันและโปรตีนมากได้ไม่ดี
นอกจากนี้นมยังผ่านกระเพาะอาหารได้ช้าอาจทำให้อาเจียนได้ถ้าไม่อาเจียนอาจลองให้นมเจือจางได้ควรงดนมไม่เกิน
6-8 ชั่วโมหลังจากนั้นควรให้นมเจือจาง
5.เวลามาพบแพทย์ควรนำอุจจาระมาด้วย เพราะมีประโยชน์ต่อการวินิจฉัยโรค
การป้องกันและควบคุม
ควรมีการดูแลในเรื่องสุขาภิบาล
การรักษาอนามัยส่วนบุคคล เช่น การล้างมือ การรักษาความสะอาดในการประกอบอาหาร
น้ำดื่ม น้ำใช้ การดูแลรักษาห้องสุขาให้สะอาดถูกสุขลักษณะการทำลายขยะ
และการกำจัดสิ่งโสโครก ขจัดแหล่งแพร่กระจายเชื้อ
ทารกที่เลี้ยงด้วยน้ำนมมารดาจะมีอาการอุจจาระร่วงรุนแรงน้อยกว่าเด็กที่เลี้ยงด้วยนมขวดอาจเป็นเพราะ
secretory
IgA หรือสารอื่นในน้ำนม
การป้องกันที่ให้ผลดีคือการให้ activeimmunization โยการฉีดวัคซีน หรือ passive protection แอนติบอดี้ต่อไวรัสโรตา
ปัจจุบันมีการพัฒนาวัคซีนของไวรัสโรตาโดยการเตรียมด้วยวิธีต่างๆ
ได้แก่ วัคซีนตัวตาย วัคซีนตัวอ่อนฤทธิ์
จากการเพาะเลี้ยงเซลล์นอกจากนี้ยังมีการคิดค้นวัคซีนที่ผลิตโดยวิธี genatic
reassortmente วิธีพันธุวิศวกรรมและวัคซีนสังเคราะห์
การตรวจตัวอย่างตรวจโดยตรง
ตัวอย่างตรวจคืออุจจาระซึ่งควรเก็บในระยะ
1-4วันแรกที่ผู้ป่วยแสดงอาการ นำตัวอย่างมาตรวจหาอนุภาคไวรัส หรือ แอนติเจน
หรือยีโนมของไวรัส
-การตรวจหาอนุภาคไวรัส
โดยดูด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเลกตรอนจะเห็นอนุภาคไวรัสมีลักษณะคล้ายล้อเกวียนขนาด
70 นาโนเมตร แตกต่างจำ Enteric Viruses ชนิดอื่น ๆ อย่างชัดเจน
วิธีนี้มีข้อเสียที่ต้องใช้เครื่องมือราคาแพง
และไม่เหมาะในการตรวจตัวอย่างจำนวนมากๆ
อาจดัดแปลงให้มีความไวและความจำเพาะเพิ่มขึ้นโดยใช้แอนติบอดีจำเพาะทำให้ไวรัสเกิดการ
Agglutinate เสียก่อนเพื่อจะได้ตรวจหาไวรัสได้ง่ายขึ้นเรียกว่าเทคนิค Immune electron microscopy (IEM)
การตรวจหาแอนติเจน นิยมทำด้วยวิธี ELISA, Latex agglutination, reverse
passive hemagglutination (RPHA) เป็นต้น
-การตรวจหายีโนม ทำได้ด้วยวิธี PAGE ดังกล่าวแล้วข้างต้น ส่วนวิธี dot hybridization ยังเป็นวิธีที่แพงและทำได้ยากกว่า
การตรวจหาแอนติบอดี
โดยการตรวจหาการเปลี่ยนแปลงของระดับแอนติบอดีในซีรั่มคู่ Convalescernt serum มีไตเตอร์สูงกว่า acute serum อย่างน้อยสี่เท่า อาจใช้วิธีทาง Immunology
ต่าง ๆ เช่น ELISA และ IEM เป็นต้น
การตรวจหาแอนติบอดีนิยมทำกันในงานศึกษาระบาดวิทยามากกว่าเพื่อการวินิจฉัยโรค
เพราะจะได้ผลการตรวจช้าไม่ทันใช้ประโยชน์ในแง่ขนองการดูแบรักษาผู้ป่วย
การแยกเชื้อไวรัส เชื้อ Rotavirus ของคนเจริญเพิ่มจำนวนในเซลล์เพาะเลี้ยงได้ไม่ดีนัก เซลล์เพาะเลี้ยงที่ใช้กันคือ Monkey kidney cell line (MA 104) หรือ Human colon
carcinoma cell line (CaC0-2) เซลล์ติดเชื้อไม่แสดง Cytopathic effect (CPE) ที่ชัดเจน จากนั้นนำเซลล์ที่ติดเชื้อมาตรวจหาแอนติเจนจำเพาะด้วยวิธีอิมมูนเรืองแสดง
การที่สามารถแยกเชื้อไวรัสได้จึงทำให้สามารถศึกษาคุณสมบัติของ Rotavirus
ได้ง่ายขึ้น
คุณสมบัติของเชื้อ
-
มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 80-220 nm
-
มีรูปร่างหลายแบบ เช่น รูปร่างกลม หรือรูปไข่
-
ยีโนมเป็นอาร์เอ็นเอ สายเดี่ยว สายบวก ( ss (+)RNA
) อยู่ภายใน helical capsid
-
มี envelope หุ้ม บนผิวของ envelope มี spikes หรือ peplomers รูปกระบอง
(club-shaped peplomers)
พยาธิสภาพ พบอนุภาคไวรัสใน epithelial cell ในลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่ นอกจากนี้มีการตรวจพบอนุภาคคล้าย Coronaviruses
(Coronavirus-like particles, CVLPs) ใน epithelial cell ของ jejunum ของผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงเรื้อรัง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น