ในปัจจุบันยังไม่มียารักษาและป้องกันจำเพาะ มีการใช้ ribavirin ในการรักษาโรคติดเชื้อ
parainfluenza viruses ในเด็กที่มีระบบอิมมูนบกพร่อง
อย่างไรก็ตามมิได้มีการวัดประสิทธิผลของยาอย่างแน่ชัด วัคซีนต่อ Type3
กำลังอยู่ในระหว่างพัฒนา
วัคซีนตัวตายไม่มีผลในการป้องกันโรคถึงแม้ว่าจะตรวจพบแอนติบอดีในผู้รับวัคซีน
วัคซีนที่อยู่ในความสนใจคือวัคซีนเชื้อมีชีวิตอ่อนฤทธิ์ 2 ชนิด ชนิดแรกคือใช้ bovine
parainfluenza virus type3 ซึ่งจะให้ภูมิคุ้มกันข้ามต่อ human
parainfluenza virus อีกชนิดหนึ่งคือ
Cold-adapted vaccines นอกจากนี้มี
polypeptide สังเคราะห์ซึ่งมีโครงสร้างคล้าย F1
fusion protein
Respiratory
syncytial virus (RSV)
เชื้อ RSV มีบทบาทสำคัญในการก่อโรคติดเชื้อทางเดินหายใจในเด็กอายุต่ำกว่า
1 ปี
เชื้อนี้แยกได้เป็นครั้งแรกจากทางเดินหายใจลิงชิมแปนซีซึ่งป่วยมีอาการเป็นหวัดกันทั้งฝูง ให้ชื่อว่า chimpanzee coryza agen
(CCA) ต่อมาแยกเชื้อได้จากเด็กที่เป็นปอดบวมและจากเด็กที่มีอาการ croup
เชื้อ RSV มีลักษณะพิเศษคือเมื่อเลี้ยงในเซลล์เพาะเลี้ยงจะให้
CPE เป็น syncytial cell ขนาดใหญ่ จึงได้ชื่อว่า respiratory syncytial
vins หมายถึงว่าเป็นไวรัสที่แยกได้จากทางเดินหายใจ และทำให้เกิด CPE แบบเซลล์หลายเซลล์มาเชื่อม
(fus)กัน
เชื้อ RSV เป็นสมาชิก จัดอยู่ใน family
Paramyxoviridae,Genus Pneumovirus คุณสมบัติโดยทั่วไปเหมือนกัน paramyxoviruses
คุณสมบัติสำคัญที่ต่างไปคือ ที่ envelope ของ RSV
มีปุ่มขนาดใหญ่ยื่นออกไป
แต่ใม่มีคุณสมบัติของทั้งฮีแมกกลูตินินและนิวรามินิเดส ส่วนปุ่มขนาดเล็กมี fusion (F) protein ซึ่งทำให้เซลล์ติดเชื้อมีการเชื่อมรวมตัวกันเป็น syncytial cell เชื้อ RSV มีปุ่มอีกแบบหนึ่งซึ่งมีขนาดเล็กกว่า F
protein คือ G protein วึ่งทำหน้าที่เกาะติดกับ
host cell
ในขณะนี้อาจจำแนกเชื้อ RSV ออกเป็น 2
subgroups คือ 1 และ 2 หรือ
A และ B โดยทำปฏิกิริยากับ monoclonal
antibody จำเพาะ
แต่ถ้าทำการทดสอบโดยวิธี CF จะแยก subgroup ไม่ได้
เนื่องจากมีแอนติเจนร่วมกัน
เชื้อ RSV ทำให้เกิดโรคต่อระบบทางเดินหายใจทั้งส่วนบนและส่วนล่าง
ในทารกและเด็กเล็กจะติดเชื้อได้ง่ายและมีอาการรุนแรง อาการที่พบบ่อย ได้แก่
1.ทางเดินหายใจส่วนบนอักเสบและมีไข้
2.ทางเดินหายใจส่วนล่างอักเสบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น